วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เกาอย่างหมาขี้เรื้อน

   เกาอย่างหมาขี้เรื้อน


      หากใครชอบสังเกตจะเห็นว่า “หมาขี้เรื้อน” มักจะเที่ยวหาที่เกาขี้เรื้อนตัวเองไปเรื่อย ด้วยมันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้คันเกิดจากที่ๆมันอยู่ เลยต้องคอยย้ายที่อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหน ความคันก็ยังคงติดตามมันไปอยู่เช่นเดิม แม้กระนั้น มันก็ยังคอยตำหนิว่าที่มันคันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะที่อยู่อาศัย หาใช่เกิดจากขี้เรื้อนที่ตัวมันเองไม่ เลยต้องคอยย้ายที่เกาอยู่ทั้งวัน..

     บางครั้งคนเราเมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ก็มักจะออกเดินทาง เปลี่ยนสถานที่แสวงหาบรรยากาศใหม่ๆ เพื่อหวังผ่อนคลายความทุกข์เศร้าในใจ ไม่ว่าทุกข์นั้นจะมาจากปัญหาเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องความรักก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเดินทางจนสุดขอบโลก หรือท่องเที่ยวไปจนสุขขอบจักรวาล บรรยากาศ วิวสวยข้างทาง สิ่งแปลกใหม่รอบตัว อาจทำให้เพลิดเพลินได้เพียงชั่วขณะ แต่ความทุกข์ที่อยู่ในใจก็ยังคงอยู่เช่นเดิม

     หากคนเราขับรถไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย หรือออกเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆแล้วทำให้ความทุกข์หายไปได้ แม้จะใช้น้ำในมหาสมุทรทั้งโลกรวมกันเติมแทนน้ำมันได้ ก็คงไม่พอสำหรับการเดินทาง….

     ตราบใดที่ยังเกาไม่ถูกที่คัน หรือไม่รู้ว่าคันเกิดจากที่ใด แม้จะเที่ยวเปลี่ยนสถานที่เกาไปจนชั่วชีวิต ก็หาทำให้หายคันไม่

“โคลนเกิดจากน้ำ ก็เอาน้ำนั่นแหละล้างโคลน
ทุกข์เกิดจากใจก็เอาใจนั่นแหละล้างทุกข์”

     จงอย่าคิดว่าโลกนี้เป็นของเรา ทรัพย์สินทั้งหมดในโลกนี้เป็นของเรา ร่างกายนี้เป็นของเรา ร่างกายของบุคคลอื่นเป็นของเรา จงคิดว่าร่างกายเป็นเพียงธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ มาประชุมกัน ทำความรู้สึกแต่เพียงเห็นก็รู้ว่าเห็น เป็นก็รู้ว่าเป็น ไม่ไปสนใจ ไม่ไปยึดถือว่ามันกับเราจะอยู่ด้วยกันตลอดกาลสมัย

ตัดความโลภ ด้วยการให้ทาน

ตัดความโกรธ ด้วยการให้อภัย เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

ตัดความหลง ด้วยการยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง


  นโมพุทธายะ






วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รูรั่วที่ลูกโป่ง




รูรั่วที่ลูกโป่ง

ลูกโป่ง..แม้จะสีสวยงามสดใส ลวดลายน่ารักชวนมอง หากโดนหนามทิ่มแทง จนเกิดเป็นรูรั่วแม้เพียงรูเล็กๆ ก็ยากที่จะเป่าลมให้พองโตได้ดังใจ หรือแม้จะโตได้ ก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะรูที่รั่วนั่นเอง ยิ่งเป่าก็ยิ่งรั่ว .. และหากต้องคอยเติมลมอยู่ตลอดเวลาเพื่อชดเชยลมส่วนที่หายไป โดยหวังประคองรักษาขนาดลูกโป่งให้โตเท่าเดิมอยู่เสมอ ก็คงจะเหนื่อยไม่น้อยทีเดียว .. ตราบที่ยังไม่อาจอุดรูรั่วของลูกโป่งนั่นได้ ต่อให้เป่าลมเข้าไปจนตาย ก็คงไม่พออยู่ดี และหากเร่งเป่ามาก จนเกินไป ลูกโป่งก็อาจแตกได้ในที่สุด..
      มนุษย์เรา มักจะดิ้นรน แสวงหาสิ่งต่างๆมาเติมเติม ให้กับชีวิต ที่ตัวเองคิดว่ายังขาด ยังพร่องอยู่ บ้างก็อยากได้รถ อยากได้บ้าน อยากเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ อยากได้กล้องถ่ายรูป อยากได้ทีวีจอใหญ่ ฯลฯ เป็นความอยากที่ไม่วันสิ้นสุดและเมื่อได้มา ก็ต้องมานั่งทุกข์ใจ กับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลพวงจากความอยาก..ชีวิตที่เคยปกติสุข ก็กลายเป็นชีวิตที่ต้องดิ้นรนตลอดเวลาเหมือนหนูถีบจักร ต้องทำงานหนักมากขึ้นเท่าตัว ไม่มีเวลาได้พักผ่อนเพื่อดื่มด่ำ เสพสุขกับผลิตผลแห่งความกระหายอยากที่ตัวเองสรรค์หามา
      สุดท้าย แทนที่จะแสวงหามาเพื่อเติมเติม กลับกลายเป็นแสวงหามาเพื่อทับถมชีวิตตัวเอง เวลาที่จะพักผ่อนและความสุขที่หวังจะร่วมแบ่งปันให้กับคนในครอบครัว ก็ค่อยลดหายไป พร้อมกับอายุที่มากขึ้น และเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยลง…ยิ่งน่าสงสารและเวทนานักหากชีวิตต้องจากโลกนี้ไปโดยที่ยังไม่ได้แสวงหาความสุขที่แท้จริงให้กับชีวิตตัวเอง
        

ตราบใดที่เรายังไม่จักอุดรูรั่วภายในใจของเรา..
รูรั่วที่เกิดจากหนามแห่งกิเลส ตัณหา ราคะ
วามทะยานอยากทิ่มตำถึงแม้เราจะดิ้นรน
เพื่อแสวงหาสิ่งต่างๆมาเติมเติมจนชั่วชีวิตนี้
กระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายมาถึง… ก็คงไม่มีวันพอ..

นโมพุทธายะ...